Living in Thailand    
พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. ๒๕๖๔
Living in Thailand - หน้าแรก living travel

หมวด ๖
การลงคะแนนออกเสียงและการนับคะแนนออกเสียง
ส่วนที่ ๑
การลงคะแนนออกเสียงด้วยบัตรออกเสียง

มาตรา ๓๗

  • ให้คณะกรรมการจัดให้มีหีบบัตรออกเสียงและบัตรออกเสียงให้เพียงพอ
    ตามความจำเป็น
  • หีบบัตรออกเสียงให้มีลักษณะและขนาดเช่นเดียวกับหีบบัตรเลือกตั้งที่คณะกรรมการกำหนด
    ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งสุดท้ายก่อนวันออกเสียง
  • บัตรออกเสียงและวิธีการออกเสียง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๓๘

  • การลงคะแนนออกเสียงในบัตรออกเสียง ให้ผู้มีสิทธิออกเสียงทำเครื่องหมาย
    กากบาทในช่องทำเครื่องหมายแสดงความคิดเห็น
  • ในกรณีที่ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ประสงค์จะแสดงความคิดเห็น ให้ทำเครื่องหมายกากบาท
    ลงในช่องทำเครื่องหมาย “ไม่แสดงความคิดเห็น”

มาตรา ๓๙

ในวันออกเสียง ให้เปิดการลงคะแนนออกเสียง ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ นาฬิกา
ถึงเวลา ๑๗.๐๐ นาฬิกา

มาตรา ๔๐

ภายใต้บังคับมาตรา ๔๑ ผู้มีสิทธิออกเสียงซึ่งมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ
ออกเสียงของหน่วยออกเสียงใดให้ลงคะแนนออกเสียงได้ ณ หน่วยออกเสียงนั้น และให้มีสิทธิ
ลงคะแนนออกเสียงได้เพียงแห่งเดียว แต่ผู้มีสิทธิออกเสียงซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ใน
หน่วยออกเสียงอื่นที่มิใช่หน่วยออกเสียงที่ตนมีสิทธิออกเสียง ให้ลงคะแนนออกเสียงในหน่วยออกเสียงที่ตน
ต้องปฏิบัติหน้าที่ได้

มาตรา ๔๑

  • ผู้มีสิทธิออกเสียงซึ่งอยู่นอกเขตจังหวัดที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หรือผู้มีชื่อ
    อยู่ในทะเบียนบ้านเป็นเวลาน้อยกว่าเก้าสิบวันนับถึงวันออกเสียง จะไปลงคะแนนออกเสียงในหน่วยออกเสียง
    ที่อยู่นอกเขตออกเสียงในวันออกเสียงได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๔๒

  • ก่อนเริ่มเปิดให้มีการออกเสียง ให้คณะกรรมการประจำหน่วยนับจำนวน
    บัตรออกเสียงทั้งหมดของหน่วยออกเสียงนั้น และปิดประกาศจำนวนบัตรออกเสียงทั้งหมดในที่ออกเสียงไว้
    ในที่เปิดเผย เมื่อถึงเวลาเปิดการลงคะแนนออกเสียงให้คณะกรรมการประจำหน่วยเปิดหีบบัตรออกเสียง
    ในที่เปิดเผยแสดงให้ผู้มีสิทธิออกเสียงซึ่งอยู่ ณ ที่ออกเสียงนั้นเห็นว่า เป็นหีบเปล่าและ
    ให้ปิดหีบบัตรออกเสียงตามวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด และบันทึกการดำเนินการดังกล่าว โดยให้ผู้มี
    สิทธิออกเสียงไม่น้อยกว่าสองคนซึ่งอยู่ในที่ออกเสียงในขณะนั้นลงลายมือชื่อในบันทึกนั้นด้วย เว้นแต่ไม่มี
    ผู้มีสิทธิออกเสียงอยู่ในขณะนั้น

มาตรา ๔๓

  • ในระหว่างเวลาเปิดการลงคะแนนออกเสียง ให้ผู้มีสิทธิออกเสียงซึ่งประสงค์
    จะลงคะแนนออกเสียงนำบัตรประจาตัวประชาชน หรือบัตรหรือหลักฐานอื่นใดที่ทางราชการหรือ
    หน่วยงานของรัฐออกให้ที่มีรูปถ่ายและมีหมายเลขประจำตัวประชาชนของผู้ถือบัตร ไปแสดงตน
    ต่อคณะกรรมการประจำหน่วย แล้วให้คณะกรรมการประจำหน่วยมอบบัตรออกเสียงให้แก่ผู้นั้น
    เพื่อลงคะแนนออกเสียง
  • บัตรประจาตัวประชาชนแม้จะหมดอายุแล้วก็ให้ใช้แสดงตนตามวรรคหนึ่งได้
  • ขั้นตอนและวิธีการตรวจสอบการแสดงตนให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๔๔

  • ให้คณะกรรมการหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการมอบหมายจัดให้มีการอำนวยความสะดวก
    ในการออกเสียงของผู้มีสิทธิออกเสียงซึ่งเป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุไว้เป็นพิเศษ
    หรือจัดให้มีการช่วยเหลือในการออกเสียงภายใต้การกากับดูแลของคณะกรรมการประจาหน่วย การให้
    ความช่วยเหลือดังกล่าวต้องให้บุคคลนั้นได้ลงคะแนนออกเสียงด้วยตนเอง เว้นแต่ลักษณะทางกายภาพ
    ทำให้คนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุไม่สามารถทาเครื่องหมายลงในบัตรออกเสียงได้ ให้บุคคลอื่น
    เป็นผู้กระทำการแทนโดยความยินยอมและเป็นไปตามเจตนาของคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือ
    ผู้สูงอายุนั้น ทั้งนี้ ให้ถือเป็นการลงคะแนนออกเสียงโดยตรงและลับ
  • ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นสมควร อาจกำหนดให้มีการจัดที่ออกเสียงหรืออุปกรณ์ออกเสียง
    สำหรับคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุเป็นกรณีพิเศษ โดยจัดให้บุคคลนั้นได้ลงทะเบียน
    เพื่อขอใช้สิทธิออกเสียง ณ สถานที่ดังกล่าว และเมื่อได้ลงทะเบียนแล้ว ให้หมดสิทธิออกเสียงใน
    หน่วยออกเสียงที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
  • หลักเกณฑ์และวิธีการในการอำนวยความสะดวกตามวรรคหนึ่ง การจัดที่ออกเสียง และ
    การลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิออกเสียงตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
    โดยคำนึงถึงความสะดวกของผู้ขอลงทะเบียนด้วย

มาตรา ๔๕

  • เมื่อถึงกำหนดเวลาปิดการลงคะแนนออกเสียงแล้ว ให้คณะกรรมการ
    ประจำหน่วยประกาศปิดการลงคะแนนออกเสียง แต่ในกรณีที่ยังมีผู้มีสิทธิออกเสียงซึ่งประสงค์จะลงคะแนน
    ออกเสียงได้มาปรากฏตัวอยู่ในที่ออกเสียงเพื่อใช้สิทธิออกเสียงแล้วก่อนเวลาปิดการลงคะแนนออกเสียง
    แต่ยังไม่ได้แสดงตนหรือรับบัตรออกเสียง ให้คณะกรรมการประจำหน่วยอนุญาตให้บุคคลเหล่านั้น
    แสดงตนและมอบบัตรออกเสียงให้แก่ผู้มาแสดงตนนั้นเพื่อใช้สิทธิออกเสียง และเมื่อผู้มีสิทธิออกเสียง
    ลงคะแนนออกเสียงเสร็จสิ้นแล้ว ให้คณะกรรมการประจำหน่วยประกาศปิดการลงคะแนนออกเสียง
  • เมื่อปิดการลงคะแนนออกเสียงแล้ว ให้คณะกรรมการประจำหน่วยงดจ่ายบัตรออกเสียงและ
    ให้ทำเครื่องหมายในบัตรออกเสียงที่เหลืออยู่ให้เป็นบัตรออกเสียงที่ใช้ลงคะแนนออกเสียงไม่ได้
    ปิดช่องใส่บัตรออกเสียงบนหีบบัตรออกเสียง และจัดทารายการเกี่ยวกับจำนวนบัตรออกเสียงทั้งหมด
    จำนวนผู้มาแสดงตนและรับบัตรออกเสียง และจำนวนบัตรออกเสียงที่เหลือ รายการดังกล่าว
    ให้ปิดประกาศไว้ในที่เปิดเผย ณ ที่ออกเสียง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๔๖

  • ในกรณีที่การออกเสียงในหน่วยออกเสียงแห่งใดไม่สามารถกระทำได้
    อันเนื่องจากเกิดจลาจล อุทกภัย อัคคีภัย เหตุสุดวิสัย หรือเหตุจำเป็นอย่างอื่น ถ้าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น
    ก่อนวันออกเสียง ให้คณะกรรมการประจำเขตกาหนดที่ออกเสียงใหม่ ถ้าไม่อาจกำหนดที่ออกเสียงใหม่ได้
    ให้ประกาศงดการออกเสียงในหน่วยออกเสียงนั้น แล้วรายงานคณะกรรมการทราบโดยเร็ว
  • ในกรณีที่เหตุตามวรรคหนึ่งเกิดขึ้นในวันออกเสียง ให้คณะกรรมการประจำเขตหรือ
    คณะกรรมการประจำหน่วยประกาศงดการออกเสียงในหน่วยออกเสียงนั้นแล้วรายงานคณะกรรมการ
    ทราบโดยเร็ว
  • การดำเนินการตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่
    คณะกรรมการกำหนด
  • ให้คณะกรรมการกำหนดวันลงคะแนนออกเสียงใหม่สกหรับหน่วยออกเสียงนั้นโดยเร็ว เว้นแต่
    คณะกรรมการเห็นว่าจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงของหน่วยออกเสียงนั้นไม่เปลี่ยนแปลงผลการออกเสียง
    คณะกรรมการจะไม่จัดให้มีการลงคะแนนออกเสียงใหม่ในหน่วยออกเสียงนั้นก็ได้ ทั้งนี้ ในกรณีที่
    ไม่มีการจัดให้มีการลงคะแนนออกเสียงใหม่ มิให้ถือว่าผู้มีสิทธิออกเสียงเป็นผู้ไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง
    คณะกรรมการจะไม่จัดให้มีการลงคะแนนออกเสียงใหม่ในหน่วยออกเสียงนั้นก็ได้ ทั้งนี้ ในกรณีที่
    ไม่มีการจัดให้มีการลงคะแนนออกเสียงใหม่ มิให้ถือว่าผู้มีสิทธิออกเสียงเป็นผู้ไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง

     
พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. ๒๕๖๔
     
     
 
 
   
     
     
     
All Rights Reserved  
adming@livinginthailand.com