Living in Thailand Living in Thailand  
  Living News  

ข่าว    

ซื้อที่ดินแล้วปล่อยทิ้งไว้อาจตกเป็นของคนอื่นได้

คงมีจำนวนไม่น้อยที่ยังอาศัยอยู่ในต่างประเทศ ซื้อที่ดินในเมืองไทยเพื่อเก็บไว้ หวังว่าหลังปลดเกษียณแล้ว จะกลับมาอยู่ หรือด้วยเหตุอื่นใดก็ตาม รู้หรือไม่ว่าที่ดินที่คุณซื้อทิ้งไว้ หรือที่ดินที่คุณได้รับเป็นมรดก แต่คุณไม่ดูแลรักษาหรือไม่หมั่นตรวจสอบ อาจตกเป็นของคนอื่นได้ ด้วยวิธี การครอบครองที่ดินแบบครอบครองปรหักษ์

การครอบครองปรปักษ์มีอยู่ทั่วไป ในต่างประเทศก็มี เช่น ที่สหรัฐฯ

การครอบครองปรปักษ์ ก็คือการเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินที่ว่างเปล่าที่เจ้าของไม่อยู่ในบริเวณ ไม่มีป้ายหรือรั้วล้อมรอบแสดงความเป็นเจ้าของ

ข้อมูลจาก - สำนักกฎหมายสรรพเนติ www.sappaneti.com/board/1162/3272/

การครอบครองปรปักษ์เป็นการที่บุคคลอื่นจะได้สิทธิหรือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของเราโดยการครอบครองตาม บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒ ว่า "บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา ๑๐ ปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ติดต่อกันเป็นเวลา ๕ ปี ไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรรมสิทธิ์"

หลักเกณฑ์แห่งการครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์ ประกอบด้วยหลักเกณฑ์ ๖ ประการ ดังนี้

๑. ครอบครอง หมายถึง กริยายึดถือทรัพย์สิน เช่น เข้าทำประโยชน์ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ในเรือกสวนไร่นาถือว่าได้ครอบครองเรือกสวนไร่นานั้นแล้ว เป็นต้น

๒. ทรัพย์สินของผู้อื่น หมายถึง ทรัพย์สินที่เจ้าของมีกรรมสิทธิ์อยู่ในกรณีที่ดินจะต้องเป็นที่ดินที่มีโฉนด หรือตราจองเท่านั้น

๓. โดยสงบ คือ การครอบครองโดยปราศจากการข่มขู่ การใช้กำลัง การหลอกลวง และไม่มีใครมาหวงห้ามกีดกัน แสดงความเป็นเจ้าของ หรือฟ้องร้องขับไล่

๔. โดยเปิดเผย คือ การครอบครองโดยมิได้หลบซ่อนเร้น ปิดปัง หรืออำพรางใด ๆ

๕. ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ คือ การครอบครองโดยเจตนาตั้งใจที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้น ไม่ใช่การครอบครองแทนผู้อื่น เช่น คนสวนเฝ้าสวนแทนเจ้าของสวน หรือครอบครอง ตามสัญญาที่ให้อำนาจไว้ เช่น การครอบครองที่นาทำนาตามสัญญาเช่านา เป็นต้น

๖. ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ติดต่อกันสิบปี หรือสังหาริมทรัพย์ห้าปี ความหมายของ"อสังหาริมทรัพย์" โดยทั่ว ๆไปหมายถึง ที่ดินรวมทั้งทรัพย์ที่ติดกับที่ดิน เช่น ตึกรามบ้านช่อง อาคารถาวรวัตถุ เป็นต้น "สังหาริมทรัพย์" ก็คือ ทรัพย์ที่ขนเคลื่อนที่ได้นั่นเอง

จากข่าว แนวหน้าออนไลน์ http://www.naewna.com/likesara/357821

เฟซบุ๊ก "สายตรงกฎหมาย" แนะนำว่า

1 หมั่นไปดูที่ดินเป็นประจำ อย่างน้อยสุดปีละ 1 ครั้ง

2 เมื่อไปดูที่ดิน หากมีชาวบ้านแถวนั้น ให้เข้าไปถามไถ่ว่ามีใครมาใช้ที่ดินของเราบ้างมั้ย

3 ตรวจหลักหมุดว่ายังอยู่ที่เดิมมั้ย ชำรุดหรือไม่ มีการเคลื่อนย้ายหรือไม่ ไม่ใช่ว่าหายไปแล้วล่ะ

4 ถ้าหลักหมุดหาย ควรไปแจ้ง ตร ขอดำเนินคดี เพราะการทำลายหลักหมุดเป็นความผิดอาญา หลังจากนั้น แจ้งที่ดินเพื่อดำเนินการรังวัดใหม่

5 ควรรังวัดที่ดินอย่างน้อยทุก 5 ปี หรือเมื่อพบความผิดปกติของเนื้อที่ที่เรามี เพราะที่ดินอาจมีการเพิ่มหรือลดได้ โดยเฉพาะที่ดินริมตลิ่งหรือริมน้ำ

6 ที่ดินเราควรล้อมรั้วไว้เพื่อกำหนดเขตแดนที่แน่นอน

7 ควรแสดงป้ายว่าที่ดินนี้มีเจ้าของ คนอื่นจะได้รู้ว่าไม่ใช่ที่ดินสาธารณะ

8 สังเกตว่ามีร่องรอยทางเดินผ่านหรือทางรถวิ่งผ่านประจำหรือไม่ เพราะอาจจะโดนใช้เป็นทางผ่านประจำก็ได้

9 พบผู้บุกรุก เป็นความผิดอาญาข้อหาบุกรุก สามารถแจ้งความดำเนินคดีภายใน 3 เดือนนับแต่รู้เรื่อง รู้ตัว

10 กรณีพบผู้บุกรุก ควรดำเนินการตกลงให้รู้เรื่องว่า เค้าอยู่บนที่ดินเรานะ จะเช่าหรือจะซื้อหรือจะอย่างไร ก็ควรตกลงกันให้รู้เรื่อง ไม่งั้นก็ไล่ออกไป หรือดำเนินคดีเด็ดขาดได้เลย

หากพบเห็นความไม่ชอบมาพากล ควรปรึกษานักกฎหมายหรือทนายความ

     
ข่าว    
 
     
     
     
     
     
All Rights Reserved    
admin@livinginthailand.com